Page 29 - การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท
P. 29
จตุรงค์ บุนนาค
ระยะเวลาหนึ่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประชาชนจึงได้
น าเอาเงินปี้มาใช้มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2418 ได้
ประกาศห้ามไม่ให้ประชาชนใช้เงินปี้ (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2545)
การค้าขายในแถบ
ภูมิภาคลุ่มน้ าโขง จึงเริ่มต้น
จากการแลกเปลี่ยนสินค้า
หรือ Barter Trade กันใ น
ชุมชนที่ใกล้เคียงกัน แล้ว
พัฒนามาใช้โลหะที่มีค่าในตัว
มันเอง เช่น เงิน เป็นสื่อกลาง ที่มา: https://www.cmthainews.com/archives/15219
ในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน เพราะเริ่มมีการค้าขายกับชุมชนหรืออาณาจักรที่
ห่างไกลกันขึ้น โลหะเงินจึงเริ่มมีบทบาทการค้าในชุมชนต่าง ๆ ตามภูมิภาคลุ่มน้ าโขง
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2436 ได้เกิดกรณีพิพาทขึ้นระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ท าให้ไทยต้อง
เสียดินแดนลาวซึ่งเป็นประเทศราชของไทยที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ าโขงให้แก่ฝรั่งเศสมี
ผลท าให้การค้าขายในภูมิภาคนี้ลดบทบาทลง ด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่าง
ประเทศ โดยที่ฝรั่งเศสได้ผนวกพื้นที่ของลาวเข้าไปเป็นอาณานิคมจักรวรรดิของ
ฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศ เวียดนาม กัมพูชา
และลาว จึงได้ผลิตเงินตราขึ้นใช้เองเรียกว่า เงินอินโดจีน-ฝรั่งเศส มีหน่วยเป็น ปียัสทร์
(PIASTRE) ก าหนดค่าเงิน 1 ปียัสทร์ เท่ากับ 100 เซนต์ กระทั่งในปี พ.ศ. 2488
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ลาวได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส จึงได้มีการผลิตเงินตราขึ้น
ใช้เอง มีหน่วยเป็นเงินสกุลกีบเรียกว่า เงินกีบอิสระ หรือประชาชนเรียกว่า เงิน
กระต่าย มี 4 ประเภทได้แก่ 10 อัฐ 20 อัฐ 50 อัฐ และ 10 กีบ (ธนาคารแห่ง สปป.
การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท 18