Page 106 - การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท
P. 106
จตุรงค์ บุนนาค
มีดังนี้ (1) บทบาทด้านการส่งเสริมอาชีพและการจ้างงาน พบว่า อัตราการว่างงานใน
ชุมชนลดลง (2) บทบาทเพิ่มรายได้ พบว่า คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
(3) บทบาทด้านการลดการย้ายถิ่นฐาน พบว่า คนในชุมชนได้กลับมาท างานในชุมชน
เพิ่มขึ้น (4) บทบาทด้านการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พบว่า คนในชุมชน
มีการติดต่อค้าขายระหว่างไทย-ลาวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ดี การค้านอกระบบก็มี
ผลกระทบในทางลบ เนื่องจากรัฐบาลจะขาดรายได้จากภาษีการค้า เป็นช่องทางการ
แสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และไม่สามารถที่จะบันทึกข้อมูลของ
มูลค่าการค้าชายแดนที่แท้จริงเพื่อน าไปใช้ในการวางแผนส่งเสริมการค้าชายแดน
ไทย-ลาวได้
ด้านบทบาทของเงินบาท
ในภูมิภาคลุ่มน้ าโขงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในปัจจุบัน และ
บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ าโขงซึ่งเป็นที่ตั้งลาวในปัจจุบันนั้น ในอดีตตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี
ในปี พ.ศ. 2321 จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ในปี พ.ศ. 2436 ภูมิภาคดังกล่าวเป็นประเทศ
ราชและเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ การค้าขายใน
ภูมิภาคลุ่มน้ าโขงบริเวณนี้ได้ใช้รูปแบบการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือ Barter Trade
ต่อมาเริ่มมีการค้าขายกับชุมชนที่อยู่ห่างไกลขึ้น จึงใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น เงินเบี้ย
(Cowrie Shells) เปลือกหอยน้ าเค็ม และโลหะมีค่าในตัวเองเป็นสื่อกลางในการค้าใน
ภูมิภาค เช่น โลหะเงิน หรือทองค า โดยเริ่มจากการน าเอาโลหะมาหลอมให้มีลักษณะ
เป็นก้อนหรือเป็นแท่ง เพื่อให้สะดวกในการพกพา เช่น เงินพดด้วง (Pot Duang) ซึ่ง
ในภูมิภาคลุ่มน้ าโขงเรียกว่า เงินหมากค้อ เพราะมีลักษณะคล้ายลูกตะคล้อ โดยมีการ
ก าหนดค่าของเงินตามน้ าหนักของโลหะเงิน เช่น 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง และ 4 บาท
เท่ากับ 1 ต าลึง เป็นต้น ซึ่งผลการศึกษามีความสอดคล้องกันจากการศึกษาหนังสือ
การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท 95