Page 54 - การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท
P. 54
จตุรงค์ บุนนาค
ส่งผลให้เงินบาทเป็นที่ต้องการและมีบทบาทเป็นสื่อกลางในการค้าขายที่ทวี
ความส าคัญมากขึ้นต่อการค้าชายแดนไทย-ลาว (สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ
เวียงจันทน์, 2553)
โดยที่ไทยเป็นประเทศคู่ค้าที่มีมูลค่าการค้าสูงเป็นอันดับ 1 ของลาวและได้
ดุลการค้ามาโดยตลอด (สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์, 2553) ส่งผลให้เงิน
บาทเป็นที่ต้องการและมีบทบาทที่ส าคัญมากขึ้นต่อการค้าชายแดนไทย-ลาว
จนกระทั่งรัฐบาลลาวได้ร้องขอให้รัฐบาลไทย และผู้ประกอบการไทยรับช าระค่าสินค้า
และบริการเป็นเงินกีบแทนการช าระด้วยเงินบาท หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เรื่อง
ดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการไทย รัฐบาลของลาวจึงด าเนินการตอบโต้
ด้วยการกระจายการพึ่งพาด้านการค้า การลงทุน ไปยังเวียดนามและจีน ลดการเพิ่ง
พาจากไทยลง โดยในปี พ.ศ. 2541 จีนได้ให้เงินแก่ลาว เป็นเงิน 1.21 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นเงินเสริมทุนส ารองเงินตราต่างประเทศ ในการพยุงค่าเงินกีบให้มี
เสถียรภาพมากขึ้น การช่วยเหลือครั้งนี้น าไปสู่ข้อตกลงทวิภาคีและความร่วมมือทาง
เศรษฐกิจอื่น ๆ อีกเป็นจ านวนมาก ขณะเดียวกันเวียดนามที่มีบทบาทเป็นประธาน
กลุ่มประเทศอินโดจีนก็ได้ให้การสนับสนุนสินค้าน าเข้าจากลาวด้วยการลดอัตราภาษี
ขาเข้าจากลาว ลงร้อยละ 50 และให้ลาวสามารถใช้ท่าเรือ Vung Ang (หวุงอ่าง) และ
สนับสนุนส่งเสริมตลาดเงินในลาว ด้วยการตั้งธนาคารมีชื่อว่า ธนาคารลาว–เวียด ที่
นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงจ าปาสัก และตั้งธนาคารดังกล่าวที่กรุงฮานอย เวียดนาม
เพื่อเสริมความคล่องตัวทางด้านการท าธุรกรรมทางการเงินด้วย ต่อมาลาวและ
เวียดนามได้ท าข้อตกลง Vientiane Agreement พ.ศ. 2545 ซึ่งมีเนื้อหาในการ
อ านวยความสะดวกต่อการค้าชายแดน ลาว–เวียดนาม (Two-Way-Trade) และการ
แลกเปลี่ยนสินค้าในลักษณะ Barter Trade ระหว่างกัน ซึ่งการใช้นโยบายของลาว
การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท 43