Page 3 - การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท
P. 3
ค าน า
นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2531 ไทยได้ก าหนดยุทธศาสตร์การเปลี่ยนสนามรบใน
อินโดจีนให้เป็นสนามการค้าด้วยการสนับสนุนส่งเสริมและช่วยเหลือการค้าและการ
ลงทุนของไทยในกลุ่มประเทศอินโดจีน ท าให้การค้าขายระหว่างชุมชนสองฝั่งแม่น้ า
โขงของไทยกับลาว เริ่มกลับมามีกิจกรรมทางการค้าและการเดินทางไปมาหาสู่
ระหว่างกันมากขึ้น จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2537 ได้เปิดการใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว
แห่งที่ 1 ข้ามแม่น้ าโขงแห่งแรก เชื่อมต่อจังหวัดหนองคายกับนครหลวงเวียงจันทน์
ท าให้การคมนาคมขนส่งสินค้าระหว่างไทยและลาวสะดวกมากขึ้น จึงท าให้การค้า
ชายแดนไทย-ลาว มีมูลค่ามากขึ้น และสินค้าของไทยได้รับความนิยมแพร่หลายอย่าง
มากในลาว จนกระทั่งไทยเป็นคู่ค้าที่ส าคัญเป็นอันดับหนึ่งของลาวนับแต่นั้นมาจนถึง
ปัจจุบัน โดยมีเงินบาทเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ อีกทั้งเงินบาท
ได้ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในลาวอย่างแพร่หลาย
เช่นเดียวกับสินค้าไทย
จากปัญหาดังกล่าวนี้ จึงท าให้ลาวขาดดุลการค้ากับไทยอย่างต่อเนื่องมาโดย
ตลอดและมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของเงินกีบ ซึ่งเป็นเงินสกุลท้องถิ่นของลาว
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2564-2565 ลาวประสบกับปัญหาวิกฤติค่าเงินกีบอ่อนค่าลงอย่าง
รุนแรงเมื่อเทียบกับเงินบาท โดยปี พ.ศ. 2561 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเท่ากับ 266.35
กีบต่อบาท และในปี พ.ศ. 2565 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเท่ากับ 500.61 กีบต่อบาท
ท าให้รัฐบาล สปป.ลาว ต้องน าปัญหาดังกล่าวบรรจุเป็นวาระแห่งชาติเข้าประชุมสมัย
วิสามัญครั้งที่ 1 ของสภาแห่งชาติชุดที่ 9 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564
แต่เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว กลับยังคงมีมูลค่าการค้า
ที่ยังเพิ่มสูงขึ้น แม้ลาวจะประสบกับวิกฤติค่าเงินกีบอ่อนค่าอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับ
เงินบาท กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2563 มูลค่าการค้าชายแดนไทย-ลาว 197,429.89 ล้าน
บาท โดยที่ไทยส่งออกมูลค่า 104,003.15 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2564 มูลค่าการค้า
ชายแดนไทย-ลาว 229,553.07 ล้านบาท โดยที่ไทยส่งออกมูลค่า 125,590.48 ล้าน
การค้าชายแดนไทย-ลาว ภายใต้ร่มเงาของเงินบาท ii